ความสำคัญของการขยายพันธุ์พืช

1.  ต่อมนุษย์ การเพิ่มจำนวนต้นไม้ เป็นการเพิ่มแหล่งปัจจัย 4 สำหรับมนุษย์โดยทางตรง
และทางอ้อมทำให้มนุษย์มีอาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่มและยารักษาโรค
2.  ต่อประเทศ การเพิ่มจำนวนต้นไม้  ทำให้เกิดอาชีพต่าง ๆ มากมาย เกิดสินค้าที่ทำ
รายได้ให้แก่ประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมั่นคง เช่น การขยายพันธุ์ลำไย
ปลูกเป็นสวนลำไยจำนวนมากมีผลผลิตออกจำหน่าย ก็จะเกิดอาชีพต่อเนื่อง
เช่น คนงานเก็บลำไย โรงงานทำกล่องบรรจุ  รถขนส่ง โรงงานอบลำไยแห้ง
บริษัทจัดส่งออกจำหน่ายต่างประเทศ ฯลฯ
3.  ต่ออาชีพ อาชีพเกษตรกรรมทำการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ การเพิ่มจำนวนต้นไม้
ทำให้เกิดรายได้ทั้งทางด้านผลผลิตและรายได้จากพันธุ์ไม้ที่จำหน่ายโดยตรง
นอกจากนั้นยังเป็นการเพิ่มปริมาณอาหารสัตว์ให้เพียงพอกับการเลี้ยงสัตว์ เป็น
การเพิ่มรายได้อีกประการหนึ่ง
4.  ต่อสิ่งแวดล้อม การเพิ่มจำนวนต้นไม้ ย่อมทำให้เกิดความร่มรื่น ต้นไม้ช่วย
ยึดเกาะดินไม่ให้เกิดการพังทะลายของหน้าดิน เป็นแหล่งทรัพยากรอันมีค่า
ทำให้อากาศบริสุทธ์ ฯลฯ
5.  ต่อทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด เกิดคุณค่า
มากยิ่งขึ้น เช่นที่ดินว่างเปล่า เมื่อปลูกพืช ก็ทำให้ที่ดินนั้นมีคุณค่ามากยิ่งกว่าปล่อย
ทิ้งไว้เปล่า ๆ

การขยายพันธุ์ด้วยวิธีการต่างๆ

1. การขยายพันธุ์พืชแบบอาศัยเพศ

การขยายพันธุ์พืชแบบอาศัยเพศ เป็นการขยายพันธุ์โดยใช้ส่วนของเมล็ดที่เกิดจากการผสมเกสรระหว่างเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมีย วิธีการที่ใช้ในการขยายพันธุ์พืชแบบอาศัยเพศที่ใช้กันอยู่ทั่วไป คือ

การเพาะเมล็ด มีข้อจำกัดหลายอย่าง กล่าวคือ เป็นวิธีที่ทำให้ได้พืชต้นใหม่ที่มีลักษณะแตกต่างไปจากต้นแม่ ไม่ตรงกับความต้องการ ใช้เวลานานเพื่อรอเก็บผลผลิต และต้องใช้พื้นที่การปลูกกว้างมากถ้าต้นพืชมีขนาดใหญ่ ทำให้มีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้แทนการเพาะเมล็ด อย่างไรก็ตามการเพาะเมล็ดก็ยังมีความจำเป็น ดังนี้

1.  เพื่อให้ได้ต้นพืชต้นใหม่ที่จะนำมาใช้เป็นต้นตอในการขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่นต่อไป
2.  เมื่อพันธุ์พืชที่ต้องการจะขยายพันธุ์นั้นไม่สามารถใช้วิธีการขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่น
3.  เมื่อต้องการปรับปรุงพันธุ์พืชสายพันธุ์ใหม่ ๆ
การที่เมล็ดจะสามารถงอกเป็นต้นกล้าและเจริญเติบโตเป็นต้นพืชที่แข็งแรงสมบูรณ์ได้นั้นจะเกี่ยวข้องกับปัจจัย 2 ประการ คือ

3.1 สภาพความสมบูรณ์ของเมล็ด ต้องเป็นเมล็ดที่ยังมีชีวิตและไม่ได้รับความเสียหายในขณะที่ทำการเก็บเกี่ยว กล่าวคือ มีเมล็ดใหญ่และไม่แตกหัก
3.2 สภาพแวดล้อม จะต้องมีน้ำ อุณหภูมิ แสง และแก๊สออกซิเจนอยู่อย่างเพียงพอ

2. การขยายพันธุ์พืชแบบไม่อาศัยเพศ

  การขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ หมายถึง การขยายพันธุ์พืชด้วยการใช้ส่วนต่างๆ ของพืช ได้แก่ ราก ลำต้น ใบ โดยส่วนต่างๆ ของพืชเหล่าที่สามารถเกิดราก และเจริญเติบโตเป็นต้นพืชได้ การขยายพันธุแบบไม่อาศัยเพศ เช่น การปักชำ การตอนกิ่ง การติดตา การทาบกิ่ง การเสียบยอด เป็นต้น

 

การปักชำ

คือ การนำส่วนต่าง ๆ ของพืชพันธุ์ดี เช่น ใบ และ ราก มาตัดและปักชำในวัสดุเพาะชำ เพื่อให้ได้พืชต้นใหม่จากสวนที่นำมาตัดชำ แต่ในที่นี้จะขอแนะนำขั้นตอนการตัดชำกิ่งซึ่ง มีขั้นตอน ดังนี้

1. ตัดโคนกิ่งให้ชิดข้อยาวประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร โดยตัดเฉียงเป็นรูปปากฉลาม และตัดปลายบนให้เหนือตาประมาณ 1 เซนติเมตร

2. ใช้มีดปลายแหลมกรีดบริเวณรอบโคนยาว 1 – 1.5 เซนติเมตร ประมาณ 2 – 3 รอย

3. ปักกิ่งชำลงในวัสดุเพาะชำ ลึกประมาณ 2.5 – 5 เซนติเมตร

4. นำเข้าโรงอบพลาสติก หรือถุงพลาสติกขนาดใหญ่

5. ประมาณ 25 – 30 วัน กิ่งตัดชำจะแตกยอกอ่อน พร้อมออกราก เมื่อมีจำนวนมากพอ จึงย้ายปลูกต่อไป

 

การตอนกิ่ง

คือ การทำให้กิ่งหรือต้นพืชเกิดรากขณะติดอยู่กับต้นแม่ จะทำให้ได้ต้นพืชใหม่ ที่มีลักษณะทางสายพันธุ์ เหมือนกับต้นแม่ทุกประการ โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้

1. เลือกกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อนที่สมบูรณ์ปราศจากโรคและแมลง

2. ควั่นกิ่ง ลอกเอาเปลือกออก แล้วขูดเยื่อเจริญที่เป็นเมือกลื่น ๆ ออก

3. นำตุ้มตอน (ขุยมะพร้าวที่แช่น้ำ แล้วบีบหมาด ๆ อัดลงในถุงพลาสติก ผูกปากถุงให้แน่น) มาผ่าตามความยาวแล้วนำไปหุ้มบนรอยแผลของกิ่งตอน มัดด้วยเชือกทั้งบนและล่างรอยแผล

4. เมื่อกิ่งตอนมีรากงอกแทงผ่านวัสดุ และเริ่มแก่เป็นสีเหลือง สีน้ำตาล ปลายรากมีสีขาว และมีจำนวนมากพอจึงตัดกิ่งตอนได้

5. นำกิ่งตอนไปชำในภาชนะ กระถางหรือถุงพลาสติก เพื่อรอการปลูกต่อไป

วัสดุอุปกรณ์ใช้ในการตอนกิ่งประกอบด้วย

1  มีดที่ทำการตอนกิ่งได้ถนัด

2  ถุงพลาสติกที่มีขนาด  3 X 5  นิ้ว

3  ในที่นี้ของใช้วัสดุประเภทดิน  ดินที่สามารถเก็บความชื้นได้ดี   หาได้จากบริเวณที่มี

    ใบไม้เปื่อยย่อยสลายผสมอยู่

4  เชือกฟาง  สำหรับมัด

 กิ่งพันธุ์ที่เหมาะสมในการตอนกิ่ง จะต้องมีความสมบูรณ์  กึ่งแก่กึ่งอ่อน   มีสีเขียวอมน้ำตาล

ควั่นเปลือก   ทำการควั่นรอบกิ่งบริเวณที่จะทำการตอนกิ่งเป็นสองรอย  ให้มีระยะห่างกัน  1  นิ้ว

ลอกเปลือก  ทำการลอกเปลือกตรงกลางรอยควั่นทั้งสองออกให้หมด

ลักษณะที่ได้   ลักษณะที่ได้ภายหลังจากลอกเปลือกออกแล้ว  จะเห็นเนื้อเยื้อเจริญ

ขูดเนื้อเยื้อเจริญ   ทำการขูดเนื้อเยื้อเจริญออกให้รอบรอยแผลควั่นออกให้หมด

ลักษณะที่ได้   ลักษณะที่ได้เพื่อทำขั้นตอนต่อไป ดังภาพ   (ง่ายมัยค่ะถ้าไม่เลือกกิ่งมะนาวที่มีหนาม  และต้นที่มีมดแดง)

วัสดุห่อหุ้ม   (ดิน)  นำดินในที่นี้เดินหาดินที่มีความชื้น  ใต้ต้นไม้ที่มีใบไม้แห้ง  ตกทับถมเปื้อย ย่อยสลาย  นำมาบรรจุลงถุงพลาสติก  ที่มีขนาด  3 X 5  นิ้ว  มัดปลายถุงด้วยเชือกฟาง

กรีดถุง   ใช้มีดกรีดถุงพลาสติกที่บรรจุดิน   ตามความยาวของถุงพลาสติก

ห่อหุ้มกิ่ง   นำถุงพลาสติกที่บรรจุดิน  ห่อหุ้มกิ่งตอน   ตามรอยกรีด  ให้รอยควั่นอยู่ตรงกลางถุ่งพลาสติกที่บรรจุดิน

มัด   ทำการมัดให้แน่น  เพื่อป้องกันการขยับของถุงพลาสติกบรรจุดิน   เวลารากอ่อนงอก ตรง บริเวณลอยควั่นด้านบน  ใช้เชือกฟางมันให้เหมือนข้าวเหนียวต้มมัด  ให้ดูสวยงาม  สองเส้น

แทง   ใช้ปลายมีดแทง ๆ  แทงให้เป็นรูพอให้น้ำสามารถผ่าน  ให้ความชื้นแก่ดินภายในถุง พลาสติกได้  การถ่ายเทอากาศ   และควบคุมอุณหภูมิ

เสร็จสมบูรณ์   เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ในการตอนกิ่ง

การติดตา

คือ การเชื่อมประสานส่วนของต้นพืชเข้าด้วยกัน เพื่อให้เจริญเป็นพืชต้น เดียวกัน โดยการนำแผ่นตาจากกิ่งพันธุ์ดี ไปติดบนต้นตอ การติดตาจะมีวิธีการทำ 2 วิธี คือ วิธีการติดตาแบบลอกเนื้อไม้ และแบบไม่ลอกเนื้อไม้ ซึ่งในทีนี้จะแนะนำเฉพาะขั้นตอน การติดตาแบบลอกเนื้อไม้ ดังนี้

1. เลือกต้นตอในส่วนที่เป็นสีเขียวปนน้ำตาล แล้วกรีดต้นตอจากบนลงล่าง 2 รอย ห่างกันประมาณ 1 ใน 3 ของเส้นรอบวงของต้นตอ ความยาวประมาณ 6 – 7 เซนติเมตร

2. ตัดขวางรอยกรีดด้านบน แล้วลอกเปลือกออกจากด้านบนลงด้านล่าง ตัดเปลือก ที่ลอกออกให้เหลือด้านล่างยาวประมาณ 1 เซนติเมตร

3. เฉือนแผ่นตายาวประมาณ 7 – 10 เซนติเมตร ลอกเนื้อไม้ออกแล้วตัดแผ่นตา ด้านล่างทิ้ง

4. ประมาณ 7 – 10 วัน จึงเปิดพลาสติกออก แล้วพันใหม่ โดยเว้นช่องให้ตาโผล่ ออกมา ทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ จึงตัดยอดต้นเดิมแล้วกรีดพลาสติกออก

5. สอดแผ่นตาลงไปในเปลือกต้นตอ โดยให้ตาตั้งขึ้น แล้วพันด้วยพลาสติกให้แน่น


  1. เลือกต้นตอในส่วนที่เป็นสีเขียวปนน้ำตาล แล้วกรีดต้นตอจากบนลงล่าง 2 รอย ห่างกันประมาณ 1 ใน 3 ของเส้นรอบวงของต้นตอ ความยาวประมาณ 6 – 7 เซนติเมตร


   2. ตัดขวางรอยกรีดด้านบน แล้วลอกเปลือกออกจากด้านบนลงด้านล่าง ตัดเปลือก ที่ลอกออกให้เหลือด้านล่างยาวประมาณ 1 เซนติเมตร


  3. เฉือนแผ่นตายาวประมาณ 7 – 10 เซนติเมตร ลอกเนื้อไม้ออกแล้วตัดแผ่นตา ด้านล่างทิ้ง

   4. สอดแผ่นตาลงไปในเปลือกต้นตอ โดยให้ตาตั้งขึ้น แล้วพันด้วยพลาสติกให้แน่น

 5. ประมาณ 7 – 10 วัน จึงเปิดพลาสติกออก แล้วพันใหม่ โดยเว้นช่องให้ตาโผล่ ออกมา ทิ้งไว้ประัมาณ 2 – 3 สัปดาห์ จึงตัดยอดต้นเดิมแล้วกรีดพลาสติกออก

การทาบกิ่ง

คือ การนำต้นพืช 2 ต้นเป็นต้นเดียวกัน โดยส่วนของต้นตอที่นำมาทาบกิ่ง จะทำหน้าที่เป็นระบบรากอาหารให้กับต้นพันธุ์ดี โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้

1. เลือกกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อนที่สมบูรณ์เพศปราศจากโรคและแมลง

2. เฉือนกิ่งพันธุ์ดีให้เป็นรูปโล่ยาวประมาณ 1 – 2 นิ้ว

3. เฉือนต้นตอเป็นรูปปากฉลาม

4. ประกบแผลต้นตอเข้ากับกิ่งพันธุ์ดี พันพลาสติกให้แน่น แล้วมัดต้นตอ กับกิ่งพันธุ์ด้วยเชือกหรือลวด

5. ประมาณ 6 – 7 สัปดาห์ แผลจะติดกันดี รากตุ้มต้นตอจะงอกแทงผ่านวัสดุ และเริ่มมีสี               น้ำตาล ปลายรากมีสีขาว และมีจำนวนมากพอ จึงจะตัดได้

6. นำลงถุงเพาะชำ พร้อมปักหลังค้ำยัน ต้นเพื่อป้องกันต้นล้ม

การเสียบยอด

คือ การเชื่อมประสานเนื้อเยื่อของต้นพืช 2 ต้นเข้าด้วยกัน เพื่อให้เจริญเติบโต เป็นต้นเดียวกัน โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้

1. ตัดยอดต้นตอให้สูงจากพื้นดิน ประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วผ่ากลางลำต้นของ ต้นตอให้ลึกประมาณ 3 – 4 เซนติเมตร

2. เฉือนยอดพันธุ์ดีเป็นรูปลิ่มยาวประมาณ 3 – 4 เซนติเมตร

3. เสียบยอดพันธุ์ดีลงในแผลของต้นตอ ให้รอยแผลตรงกัน แล้วใช้เชือกมัดด้านบน และล่างรอยแผลต้นตอให้แน่น

4. คลุมต้นที่เสียบยอดแล้วด้วยถุงพลาสติก หรือนำไปเก็บไว้ในโรงอบพลาสติก

5. ประมาณ 5 – 7 สัปดาห์ รอยแผลจะประสานกันดี และนำออกมาพักไว้ในโรง เรือนเพื่อรอการปลูกต่อไป

ภาพที่  1  อุปกรณ์ในการต่อกิ่ง

ภาพที่ 2 เลือกต้นตอและยอดพันธุ์ให้มีขนาดใกล้เคียงกัน

ภาพที่ 3 ผ่าตรงกลางต้นตอลึก 2.5 – 5 เซนติเมตร (1-2 นิ้ว) โดยชี้ ปลายมีดลง

ภาพที่ 4 เฉือนโคนกิ่งพันธุ์ดีเป็นรูปลิ่มยาวเท่ากับรอยแผล ของต้นตอ

ภาพที่ 5   สอดแผลของกิ่งพันธุ์ดีลงบนต้นตอจัดให้กิ่งชิดด้านใดด้านหนึ่ง

ภาพที่ 6 พันด้วยพลาสติก(ซ้าย)  ใช้ เชือกฟางผูกแทนการพัน  พลาสติก(ขวา)

ภาพที่  7 นำกิ่งที่ต่อใส่ไว้ในถุงพลาสติกใสมัดปากถุงให้

ภาพที่  8  ประมาณ 25-30 วันยอดพันธุ์ดีจะเริ่มแตกใบให้เปิดปากถุงอีกประมาณ 5 วันจึงนำต้น